เสริมหน้าอก

หน้าอกใหญ่ เป็นปัญหาหรือไม่ มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

ส่วนใหญ่แล้วสาวไทยมักจะมีปัญหาหน้าอกเล็ก หรือไม่มีหน้าอกมากกว่า คุณเคยได้ยินไหมว่ามีสาว ๆ ที่มีปัญหาหน้าอกใหญ่เกินไป จนถึงกระทั่งส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันและความมั่นใจ ซึ่งกรณีนี้สามารถทำการผ่าตัดลดขนาดของเต้านมลงมาเพื่อให้เต้านมมีขนาดที่ใกล้เคียงกับคนทั่วไปได้

ลักษณะของเต้านมที่ใหญ่ผิดปกติมักเกิดได้กับหญิงวัยสาวหรือวัยกลางคน ซึ่งอาจเกิดหลังจากให้นมบุตร การที่มีหน้าอกใหญ่มากเกินไปจะทำให้มีอาการปวดหลัง ปวดไหล่ ซึ่งหากมีเต้านมแต่ละข้างมากกว่า 2.5 กิโลกรัมถือว่าเป็นโรคหรือความผิดปกติที่รุนแรงมากขึ้นไปอีกขั้น จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษา

การมีเต้านมที่ใหญ่มากจะทำให้ไม่คล่องตัว เนื่องจากต้องคอยระวังเต้านมที่มีรอยพับและใต้ราวนม ซึ่งอาจทำให้เกิดเชื้อราและกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ซึ่งเป็นปัญหาที่พบได้ค่อนข้างมาก การที่ผู้หญิงมีเต้านมที่มีขนาดใหญ่มากทำให้บางคนรู้สึกเขินอาย จึงต้องคอยห่อไหล่หรือสวมเสื้อตัวใหญ่ ๆ เพื่อปกปิดความใหญ่ของเต้านมทำให้เสียบุคลิกและขาดความมั่นใจในตัวเอง

วิธีแก้ปัญหาสาวหน้าอกใหญ่

การแก้ปัญหาสำหรับสาว ๆ ที่มีขนาดเต้านมที่ใหญ่นั้น ปัจจุบันนี้ได้มีการทำศัลยกรรมลดขนาดเต้านม ซึ่งจะคล้ายกับการยกกระชับหน้าอก มีหลักการในการผ่าตัด ดังนี้

  • ลดเนื้อเยื่อเต้านมโดยการวัดและตัดเนื้อเต้านมออก
  • ตัดผิวหนังส่วนเกินและเนื้อเยื่อที่หย่อนคล้อย
  • จัดวางตำแหน่งของหัวนมและปรับแต่งรูปทรงของเต้านมที่เหลือให้เหมาะกับรูปร่างของผู้ป่วย

ปัญหาหน้าอกใหญ่มักจะมาพร้อมกับปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย การผ่าตัดลดขนาดเต้านมจึงต้องทำควบคู่ไปกับการยกกระชับเต้านมขึ้นไปด้วย ซึ่งแพทย์จะทำการประเมินขนาดฐานของหน้าอก ลักษณะของเนื้อหน้าอก ลักษณะของหน้าอก ความกว้างของเต้านม สัดส่วนรูปร่าง สิ่งที่ต้องระวังในการผ่าตัดคือเรื่องของประสาทรับความรู้สึก การประเมินไม่ให้เต้านมเกิดการหย่อนคล้อยหลังจากทำการลดขนาดไปแล้ว

หน้าอกใหญ่ มีวิธีการแก้ไขอย่างไร

เมื่อผ่าตัดแล้วแผลผ่าตัดจะเกิดขึ้นได้ 2 ลักษณะ ดังนี้

  • แผลรอบปานนม วิธีนี้จะซ่อนรอยแผลเป็นได้ดี ซึ่งผู้ป่วยมีขนาดเต้านมที่ไม่ใหญ่มาก เนื้อหน้าอกไม่ได้มีเยอะมาก ผิวหนังไม่หย่อนยานเกินไป แผลผ่าตัดยุบเร็ว ทำให้ฟื้นตัวเร็ว
  • แผลรอบปานนม รูป T Scar วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่ผู้ป่วยมีขนาดเต้านมค่อนข้างใหญ่มาก และมีผิวหนังเกินมาก การที่แพทย์ตัดเฉพาะเนื้อเต้านมออกจะทำให้ผิวหนังเหลือและห้อยลงมา ดังนั้นจึงต้องทำการตัดเนื้อเต้านมออกและตัดผิวหนังที่เกินออก

ก่อนการผ่าตัดลดขนาดเต้านมแพทย์จะทำการตรวจร่างกาย ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เอกซเรย์ปอด การตรวจเลือด การตรวจเต้านม การตรวจ Mammogram เพื่อตรวจหามะเร็งเต้านม เพื่อเป็นการคัดกรองความผิดปกติก่อนทำการผ่าตัด การลดขนาดของเต้านมจะไม่สามารถตัดเนื้อเต้านมเฉพาะด้านล่างได้ จึงต้องออกแบบเต้านมส่วนที่เหลือให้ได้รูปทรงที่เหมาะสมรับรูปร่างของผู้ป่วย

ส่วนใหญ่แล้วจะเหลือเต้านมด้านบนไว้และมีการตัดเนื้อเต้านมด้านล่างออกไปบางส่วน จากนั้นแพทย์จะทำการเย็บเต้านมส่วนที่เหลือให้อยู่ในตำแหน่งที่ควรจะเป็น เพื่อเป็นการลดปัญหาการหย่อนคล้อยของหน้าอกหลังการผ่าตัด เมื่อผ่าตัดเสร็จแล้วแพทย์จะทำการเย็บปิดแผล โดยใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 3 – 5 ชั่วโมง

ในการผ่าตัดลดขนาดเต้านมนั้นอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ เช่น แผลติดเชื้อ แผลผ่าตัดแยก อาจมีเนื้อตาย มีอาการชาที่หัวนม เกิดรอยแผลเป็นบริเวณรอยแผลผ่าตัด ไม่ว่าการทำศัลยกรรมหน้าอกจะเป็นการลดหรือการเสริม สิ่งที่ศัลยแพทย์ต้องระวังมาก ๆ คือ ประสาทรับความรู้สึกซึ่งยังคงต้องอยู่หลังทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นไปแล้ว

การพักฟื้นหลังทำการผ่าตัด

ระยะเวลาในการพักฟื้นประมาณ 2 – 3 เดือน โดยแผลจะเริ่มเข้าที่ประมาณ 1 เดือนไปแล้ว ในช่วง 2 สัปดาห์แรก อาจมีการปวดแผล อาจมีน้ำเหลืองค้างประมาณ 3 – 5 วัน แพทย์จึงต้องมีการใส่สายระบายน้ำเหลือง และควรงดการมีเพศสัมพันธ์

การดูแลเรื่องแผลเป็นและการป้องกันการหย่อนคล้อยถือเป็นเรื่องสำคัญ เนื่องจากการผ่าตัดลดขนาดจะทำให้แผลค่อนข้างตึงจึงต้องดูแลเรื่องแผลเป็นพิเศษ ในเรื่องของการใส่เสื้อชั้นในที่ซัพพอร์ตหน้าอกโดยเฉพาะ  และเวลานอนควรใส่เสื้อชั้นในเพื่อช่วยลดความหย่อนคล้อยของหน้าอกได้

บทสรุป

การมีหน้าอกที่สมส่วนคือสิ่งที่สาว ๆ พึงปรารถนา หากมีขนาดหน้าอกใหญ่เกินไปคงจะมีปัญหากับการใช้ชีวิตอย่างแน่นอน เนื่องจากจะทำให้เกิดอาการปวดหลัง ปวดไหล่ได้ ดังนั้นจึงต้องมองหาศัลยกรรมลดขนาดหน้าอกซึ่งจะต้องศึกษารายละเอียดให้ดี ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยและเพื่อเป็นการลดความเสี่ยงก่อนเข้ารับการทำศัลยกรรม