ลดเหงื่อและลดกลิ่นตัวด้วย MiraDry

ลดเหงื่อหน้า

เหงื่ออกบนบริเวณใบหน้า คือปัญหาที่หนัก โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเรา ๆ ที่ต้องแต่งหน้า พอเหงื่อออกที เครื่องสำอางหายหมด แถมทิ้งคาบไว้ให้ดูต่างหน้าอีกต่างหาก และไม่ว่าคุณจะทำกิจกรรมอะไร ก็มักมารอกวนใจและสร้างความรำคาญให้หงุดหงิดหัวใจเป็นอันมาก ทำให้ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง เนื่องจากว่าเป็นจุดที่ทำให้คนอื่น ๆ สังเกตได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ก็เลยให้ความสำคัญ ในการศึกษาหารายละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับเพื่อการลดเหงื่อหน้า เพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ ของคุณไม่มีเหงื่อให้รบกวนใจ  หลายคนกำลังเผชิญกับปัญหาเหงื่อเป็นอย่างมาก เกิดความรู้สึกกลุ้มใจ ไม่มีความมั่นอกมั่นใจสำหรับในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ก็เลยต้องหาข้อมูลเพื่อช่วยในการลดเหงื่อ หรือกำจัดเหงื่อให้มีปริมาณที่สามารถรับได้

ต้นเหตุของการเกิดเหงื่อ

สาเหตุที่ทำให้เหงื่อออกมาจากหลายปัจจัย ตัวอย่างเช่น
1. อุณหภูมิภายในหรือภายนอกร่างกายสูงมากขึ้น นับว่าเป็นมูลเหตุหลักที่ทำให้เหงื่อออก
2. สภาพการณ์ทางอารมณ์ก็มีส่วนกระตุ้นให้เหงื่อไหลไคลย้อย อย่างเช่น โกรธ กลัว เครียด วิตก หรือคับแค้นใจ
3. การกินอาหารบางจำพวก ยกตัวอย่างเช่น อาหารเผ็ดร้อน เครื่องดื่มคาเฟอีน ชา กาแฟ น้ำโซดา หรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ ซึ่งกระตุ้นให้เหงื่อแตกในขณะรับประทานอาหาร
4. ลักษณะของการป่วยทางร่างกาย ดังเช่น โรคมะเร็ง ไข้ขึ้น อาการติดเชื้อโรค น้ำตาลในเลือดต่ำ กลุ่มอาการเจ็บปวดเฉพาะที่อย่างซับซ้อนบริเวณแขนขาหรือกลุ่มอาการซีอาร์พีเอส (Complex Regional Pain Syndrome)
5. การใช้ยาบางประเภท ยกตัวอย่างเช่น ยาลดไข้ ยาพาราหรือมอร์ฟีน ยาบำบัดภาวะร่างกายพร่องต่อมไทรอยด์ฮอร์โมน (Synthetic Thyroid Hormones)
6. อยู่ในวัยหมดประจำเดือนหรือวัยทอง เป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนที่เกี่ยวโยงกับประจำเดือน ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เหงื่อไหล ก็เลยมองเห็นได้ว่าสตรีวัยทองมักมีลักษณะอาการเหงื่อไหลไคลย้อยในช่วงเวลากลางคืน หรือมีลักษณะร้อนวูบวาบพร้อมด้วยเหงื่อไหล

สภาวะเหงื่ออออกมากผิดปกติแบ่งได้ 2 กลุ่ม เช่น

1.กลุ่มที่เกิดจากสภาวะความผิดปกติภายในร่างกาย (Secondary Hyperhidrosis) กลุ่มนี้ จะมีเหงื่อแตกในจำนวนมากทั่วร่างกาย กระทั่งในเวลาเข้านอน ซึ่งเกิดขึ้นได้เนื่องมาจากสภาวะที่มีจำนวนความร้อนที่ออกจะมากมายภายในร่างกายจากผลกระทบของโรคต่าง ๆ อาทิเช่น โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ โรควัณโรคปอด โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง คนที่เป็นโรคอ้วน หญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน หรือการกินยาบางชนิด ฯลฯ

2.กลุ่มที่ไม่รู้สาเหตุที่เด่นชัด (Primary Hyperhidrosis) กลุ่มนี้จะมีภาวการณ์เหงื่อแตกมากผิดปกติ ที่ไม่เคยทราบสาเหตุที่แน่ชัด โดยไม่ได้เกิดจากภาวะแทรกซ้อนของโรคอื่น ๆ เกิดได้ทั้งในผู้หญิงและก็ผู้ชาย กลุ่มนี้ จะมีเหงื่อออกเฉพาะบริเวณบางส่วนของร่างกาย ตัวอย่างเช่น บริเวณใบหน้า หัว จั๊กกะแร้ ฝ่ามือ มักพบได้บ่อยในกลุ่มคนที่อายุยังน้อย ในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ผู้ป่วยที่มีภาวการณ์นี้ จะพบว่ามีพี่น้องสายตรง หรือบิดามารดาบางส่วนที่มีภาวการณ์เหงื่อซึมมากผิดปกติ

การลดเหงื่อหน้า

  • การฉีดโบท็อกซ์นั้นก็เพื่อรักษาสภาวะเหงื่อไหลมากผิดปกติเฉพาะที่ โดยยิ่งไปกว่านั้นบริเวณใบหน้า จะเป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปรอบ ๆ ชั้นใต้ผิวหนังชั้นตื้น รอบ ๆ ที่เหงื่อออกมาก โบท็อกซ์จะออกฤทธิ์โดยการไปยั้งสาร Acetylcholine ที่หลั่งออกมาควบคุมระบบประสาทที่นำมาซึ่งการก่อให้เกิดการหลั่งของเหงื่อ ภายหลังการฉีดจะเริ่มเห็นผลการดูแลและรักษาภายใน 2 – 4 อาทิตย์ โดยเหงื่อจะค่อย ๆ ลดลงและก็แห้งไปท้ายที่สุด การฉีดโบท็อกซ์ช่วยลดเหงื่อได้ราว 80% ผลของการรักษาอยู่ได้ราว 6 – 8 เดือน ตอนนี้ การฉีดโบท็อกซ์ ถือว่าเป็นแนวทางที่ได้ผลการดูแลและรักษาที่ดีสำหรับการลดเหงื่อที่ออกมาก ใบหน้า รักแร้ ฝ่ามือ และก็อุ้งเท้า ทั้งยังช่วยลดกลิ่นตัวได้ด้วย
  • ใช้แนวทาง Dermal modulation ฉีดโปรตีนบริสุทธิ์เพื่อลดเหงื่อที่บริเวณใบหน้าแล้วก็ส่วนอื่น ๆภายในร่างกายได้ และยังสามารถลดกลิ่นกายได้ ซึ่งเป็นการลดรูปแบบการทำงานของประสาทอัตโนมัติ ก็เลยลดอาการเหงื่อซึม นอกจากจะช่วยทำให้ลบรอยเหี่ยวย่นให้ผิวหน้ากระชับตึงมองอ่อนวัยแล้ว ยังสามารถจัดการกับปัญหาภาวการณ์เหงื่อซึมมากผิดปกติ โดยยิ่งไปกว่านั้นบริเวณใต้วงแขนที่ทำให้ท่านเสียความเชื่อมั่นและมั่นใจ โดยโปรตีนบริสุทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ลดเหงื่อนั้น จะออกฤทธิ์สกัดกั้นการหลั่งสารที่ไปกระตุ้นการเกิดเหงื่อ หลังการดูแลรักษาที่ใช้เวลาเพียงแต่ 10 นาที และก็จะควบคุมการเกิดเหงื่อต่อไปอีกนาน 7 – 8 เดือน ให้ท่านใส่ชุดสวยได้มั่นใจมากขึ้น
  • ใช้สารในกลุ่มที่ลดการขับเหงื่อที่มีสารอลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminium chloride) ในรูปของโรลออน ครีม หรือสเปรย์ แม้กระนั้นบางทีอาจลดเหงื่อได้น้อย
  • การผ่าตัดต่อมเหงื่อ การผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะมีการเลาะต่อมเหงื่อออกไป แต่การผ่าตัดมักไม่ได้รับความนิยมด้วยเหตุว่าบางทีอาจเกิดผลข้างเคียง ดังเช่น แผลเป็น โดยจะมีแผลขนาดเล็กราว ๆ1 ถึง 2 ซม. หรือพบว่าอาจมีการติดเชื้อได้ในบางราย
  • วิธีไอออนโตโฟรเรซิส (Iontophoresis) ที่ผ่านกระแสไฟขนาดอ่อนลงสู่ใต้ผิวหนังเพื่อลดเหงื่อ การดูแลและรักษาแนวทางแบบนี้ไม่ถาวร จำต้องทำใหม่หลาย ๆ ครั้ง ก็เลยไม่เป็นที่ชื่นชอบ