การเสริมหน้าอกด้วยไขมัน เป็นการนำของไขมันของผู้ป่วยเองฉีดเข้าไป โดยการฉีดเสริมด้วยไขมัน จำนำเอาไขมันจากบริเวณหน้าท้อง ต้นขา เป็นต้น มาฉีดเสริมเพื่อสร้างเต้านมใหม่ ถือเป็นเทคนิคที่ทำได้ง่าย และได้ผลดี สามารถปรับแต่งเต้านมให้ได้รูปสวยดูเป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีเต้านมเล็กถึงปานกลาง หรือในผู้ป่วยที่เคยได้รับรังสีรักษาบริเวณทรวงอกและมีเนื้อเยื่อหรือผิวหนังถูกทำลายจากการฉายแสง การเสริมสร้างเต้านมใหม่โดยการฉีดเสริมด้วยไขมันจะช่วยฟื้นฟูผิวหนังบริเวณเต้านมให้ดีขึ้นได้
การเสริมหน้าอกด้วยไขมัน โดยการฉีดเสริมด้วยไขมัน จะทำภายใต้การดมยาสลบ โดยแบ่งเป็น 2 ขั้นตอน ดังนี้
- ขั้นตอนการดูดไขมัน
- ขั้นตอนการฉีดเสริมไขมันเพื่อสร้างเต้านม
ขั้นตอนการดูดไขมัน
แพทย์จะทำการดูดเก็บไขมันที่จะนำมาใช้ฉีด โดยตำแหน่งที่เหมาะสมในการดูดคือ บริเวณหน้าท้อง สะโพก บั้นเอว และต้นขา เพราะนอกจากจะมีปริมาณไขมันมากแล้ว ยังเป็นตำแหน่งที่ทำได้สะดวก ผู้ป่วยไม่ต้องเปลี่ยนท่าในขณะทำผ่าตัด
ส่วนขั้นตอนในการดูดไขมัน เริ่มจากแพทย์จะฉีดสารละลายผสมยาชาที่ช่วยให้การดูดไขมันทำได้ง่ายขึ้น ลดการเสียเลือดระหว่างทำ และยังช่วยลดความเจ็บปวดหลังการทำในบริเวณที่จะดูดเก็บไขมัน จากนั้นแพทย์จะเปิดแผลขนาดเล็กประมาณ 2 – 3 มม. ตรงตำแหน่งที่แทงเข็มฉีดยาแล้วสอดหัวดูดเข้าไปดูดไขมันออกมา ซึ่งแพทย์จะระมัดระวังไม่ดูดที่ตำแหน่งหนึ่งตำแหน่งใดมากจนเกินไป เพื่อป้องกันการเกิดผิวไม่เรียบสม่ำเสมอบริเวณที่ดูดไขมันในภายหลัง
เมื่อดูดไขมันจนได้ปริมาณตามที่ต้องการแล้ว จะเย็บปิดแผลด้วยไหมละลาย และกดปิดแผลตรงตำแหน่งที่ดูดไขมันให้แน่นเพื่อลดอาการบวม จากนั้นแพทย์จะนำไขมันที่ได้ไปจัดเตรียมให้อยู่ในสภาพที่เหมาะจะนำมาใช้ฉีดเสริมสร้างเต้านมต่อไป
บทความแนะนำ ลดหน้าท้อง By Rattinan.com
ขั้นตอนการฉีดเสริมไขมันเพื่อเสริมหน้าอก
หลังจากได้ไขมันมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนำไขมันมาฉีดเพื่อเสริมสร้างหน้าอก
ในการฉีดไขมันเพื่อเสริมหน้าอก แพทย์จะพิจารณาหลาย ๆ ส่วนประกอบกัน เพื่อให้ผลการรักษาออกมาเป็นที่พอใจมากที่สุด ปริมาณไขมันที่ฉีดควรฉีดมากน้อยแค่ไหน บริเวณหรือตำแหน่งที่จะฉีด ผู้ป่วยเคยได้รับการฉายแสงมาก่อนหรือไม่ เทคนิคการฉีดก็เป็นเรื่องสำคัญ แพทย์จะเลือกตำแหน่งที่จะไม่รบกวนการตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวน์ในอนาคต นอกจากนั้นในการฉีดไขมันเพื่อเสริมเต้านม แพทย์จะฉีดไขมันให้กระจายตัว ไม่ฉีดกองรวมที่ใดที่หนึ่ง เพื่อป้องกันไขมันที่ฉีดเข้าไปก่อตัวเป็นถุงไขมัน หรือมีการตายจับตัวเป็นหินปูน
หลังฉีดไขมันแพทย์จะเย็บปิดแผลตรงตำแหน่งที่ฉีดไขมัน และปิดด้วยผ้าปิดแผลธรรมดา ไม่ต้องพันรัดแน่นแต่อย่างใด
การเตรียมตัวก่อนการฉีดไขมันเสริมหน้าอก
- แจ้งประวัติการแพ้ยา รวมถึงโรคประจำตัว และประวัติการผ่าตัดให้แพทย์ทราบ
- งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและระยะการบวมที่นานกว่าปกติ
- ไม่ต้องอดอาหาร แต่ควรรับประทานอาหารไม่ให้อิ่มเกินไป
- งดการผ่าตัดในช่วงที่เป็นหวัด ไอ ไข้ หรือป่วย
- ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใด ๆ ในบริเวณใบหน้า ที่ยากแก่การเช็ดออกก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
ข้อควรระวังหลังฉีดไขมันเสริมหน้าอก
- ระวังไม่ให้บริเวณที่เติมไขมันได้รับการกระทบกระแทก เพราะไขมันเป็นสิ่งมีชีวิต ที่จะต้องดูแล ทะนุถนอม หากโดนแรงกระแทก อาจทำให้ไขมันได้รับความเสียหาย บอบช้ำ หรือเซลล์ไขมันตายได้
- ไม่ควรลดน้ำหนัก เพราะร่างกายจะเผาผลาญไขมันที่ไม่จำเป็น หรืออ่อนแอออกไปก่อน ไขมันที่ฉีดเติมเข้าไปอาจสลายตัวไปในระยะเวลาอันรวดเร็ว
- งดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ เพราะสารในบุหรี่มีผลกระทบต่อการติดของไขมัน
- หลีกเลี่ยงอุณหภูมิที่ร้อนจัด และเย็นจัด เพราะจะทำให้ไขมันที่เติมเข้าไปตายได้ หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิหนาวจัด หรืออุณหภูมิที่ร้อนจัด เช่นการแช่ออนเซ็น การอบซาวน่า
การดูแลหลังฉีดไขมันเสริมหน้าอก
- ในช่วง 3 วันแรก หลังทำการฉีดไขมันหน้าอก ไม่ควรใส่ชุดชั้นใน
- ห้ามใส่ชุดชั้นรัดบริเวณหน้าอก ควรใส่เป็นชุด Sport Bra หลวม ๆ ประมาณ 3 เดือน หลังทำการฉีดไขมันหน้าอก
- หลังทำการฉีดไขมันหน้าอก ห้ามนวดหน้าอก หรือบีบหน้าอกแรงๆ ประมาณ 3 เดือน
- อาจจะมีอาการปวดระบมเล็กน้อยประมาณ 1-2 วัน
- หลังจากการดูดไขมัน ในบริเวณที่ได้รับการดูดไขมัน อาจจะมีน้ำซึมออกมาจากแผลเล็กน้อย ประมาณช่วง 3 วันแรกหลังได้รับการผ่าตัด หากมีน้ำซึมออกมาเต็มบริเวณผ้าปิดแผล ควรจะเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่ หรือควรเปลี่ยนผ้าปิดแผลใหม่อย่างน้อย 1-2 ครั้ง/วัน
- ห้ามให้แผลที่ได้รับการดูดไขมันโดนน้ำเป็นเวลา 1 สัปดาห์ หลังจากได้รับการดูดไขมัน
- ควรใส่ Support รัด ในตำแหน่งที่ได้รับการดูดไขมัน ตลอดเวลา ยกเว้นเวลาอาบน้ำและใส่ Support ในตำแหน่งนั้นเป็นเวลาอย่างน้อย 2 เดือน
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า ห้ามนอนตะแคง เพราะอาจจะโดนหน้าอกได้ รวมถึงงดบีบหรือขย้ำหน้าอกด้วย นอกจากนี้แนะนำให้ใส่ซิลิโคนปิดหัวนมแทนการใส่บรา เพื่อไม่ให้มีแรงกดทับ แรงรัดแน่นบริเวณหน้าอก