ศัลยกรรมหน้าอก, เสริมหน้าอก

เสริมหน้าอก 250 cc ช่วยให้หน้าอกสวย นุ่ม ดูดี เป็นธรรมชาติ

สำหรับสาว ๆ ที่มีหน้าอกเล็ก และอยากจะเสริมหน้าอกให้ใหญ่ขึ้นนั้น ควรจะทำให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุด เพื่อจะได้เป็นการเสริมสร้างบุคลิกที่ดีให้กับตัวเอง การเสริมหน้าอก 250 cc จะดีหรือไม่ เรามาดูหลักการเสริมหน้าอกให้ดูสวย นุ่ม ดูเป็นธรรมชาติกันดีกว่า ว่าควรทำอย่างไร

หลักการเสริมหน้าอกให้ สวย นุ่ม เป็นธรรมชาติ มีดังนี้

  • สาว ๆ ควรเลือกขนาดซิลิโคนที่พอดีกับโครงสร้างของตัวเอง หรือ เล็กกว่าโครงสร้างของตัวเองเล็กน้อย หากเลือกขนาดด้วยตัวเองไม่ถูก ศัลยแพทย์จะเป็นผู้แนะนำโดยการตรวจวัดอย่างละเอียด เช่น หากคุณเป็นคนที่มีฐานหน้าอกแคบประมาณ 5 เซนติเมตร ซิลิโคนที่เหมาะกับคุณคือ 275 cc หรือน้อยกว่านั้น คือ 250 cc ,230 cc

ไม่ควรเสริมขนาดที่ใหญ่เกินที่วัดและคำนวณไว้ เพราะการใส่ขนาดที่ใหญ่กว่าโครงสร้างจะดูสวยในระยะแรก ๆ แต่ต่อมาจะดูไม่เป็นธรรมชาติหน้าอกจะเกิดพังผืดรัด แข็ง ผิดรูป ได้ง่าย คลำได้ขอบวัสดุชัดเจน การเสริมด้วยขนาดที่พอดีตัวหรือขนาดเล็กกว่าจะดูเป็นธรรมชาติกว่า

  • ซิลโคนทรงหยดน้ำจะดูเป็นธรรมชาติกว่าทรงกลม เพราะปกติแล้วหน้าอกของสาว ๆ จะไม่ได้กลมเท่ากันหมดทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ซึ่งส่วนล่างจะนูนกว่าเมื่อมองจากด้านข้างจะเป็นรูปทรงคล้ายหยดน้ำ ดังนั้นหากต้องการความเป็นธรรมชาติ ให้เลือกทรงหยดน้ำ
  • ซิลิโคนผิวทราย มีโอกาสเกิดพังผืดรัด หน้าอกแข็ง
  • ซิลิโคน ผิวทราย โอกาสเกิดพังผืดรัด หน้าอกแข็ง น้อยกว่า ผิวเรียบ จึงดูเป็นธรรมชาติกว่า
  • การใส่ซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อจะสัมผัสได้เป็นธรรมชาติมากกว่าการใส่เหนือกล้ามเนื้อ เนื่องจากเวลาสัมผัสจะมีกล้ามเนื้อคลุมบางส่วน ทำให้นุ่มดูเป็นธรรมชาติ
  • แผลผ่าตัดบริเวณรักแร้ ดูเป็นธรรมชาติกว่า แผลใต้ราวนม โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยมีเนื้อนมคล้อยลงมาปิดแผลใต้ราวนม จะเห็นแผลชัดมาก ส่วนบริเวณรักแร้จะซ่อนแผลตามรอยพับของรักแร้ได้เนียนเป็นธรรมชาติกว่า
  • การดูแลหลังผ่าตัดก็สำคัญไม่น้อย สาว ๆ ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังผ่าตัด นวดหน้าอกอย่างถูกวิธี ดูแลแผลผ่าตัดไม่ให้ติดเชื้อ ไม่ให้เป็นแผลเป็นนูน (คีรอย)

เสริมหน้าอก 250 cc ดีไหม

วิธีการใส่ซิลิโคนเพื่อเสริมหน้าอก

การใส่ซิลิโคนเพื่อเสริมหน้าอกนั้น ศัลยแพทย์จะทำการผ่าตัดเสริมหน้าอกให้ผู้เข้ารับบริการโดยการดมยา การเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนนั้นสามารถเปิดแผลเพื่อใส่ซิลิโคนได้ 3 ตำแหน่ง ดังนี้

  • การเสริมหน้าอกโดยการเปิดแผลใต้ราวนม
    เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมาก เนื่องจากมีขั้นตอนที่ซับซ้อนน้อยกว่าการผ่าซิลิโคน เข้าทางอื่นของร่างกาย และทำให้มองไม่เห็นแผลผ่าตัด หลังการผ่าตัดคนไข้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว
  • การเสริมหน้าอกโดยการเปิดแผลรอบปานนม
    วิธีนี้จะปกปิดแผลได้ดี แต่มีข้อเสียก็คือ โอกาสจะเกิดการชาที่หัวนมจะสูง และอาจจะต้องตัดผ่านเนื้อเต้านม ซึ่งในเนื้อเต้านมมักมีแบคทีเรียอาศัยอยู่ทำให้โอกาสเกิดติดเชื้อ และพังผืดรัดถุงซิลิโคน
  • การเสริมหน้าอกโดยการเปิดแผลใต้รักแร้
    วิธีนี้สามารถซ่อนแผลไว้ใต้รักแร้ซึ่งเป็นจุดซ่อนเร้นได้ ทำให้มองไม่เห็นแผล ตำแหน่งการวางซิลิโคน

การวางซิลิโคนและการเลือกรูปแบบซิลิโคนของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน โดยแพทย์จะเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสม ซึ่งจะต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและเสริมให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าให้มากที่สุด

วิธีเลือกซิลิโคน

ศัลยแพทย์จะดูปัจจัยหลายอย่าง เพื่อนำมาวิเคราะห์และแนะนำในการเลือกชนิดและขนาดของซิลิโคนที่เหมาะสม ดังนี้

  • เลือกจากขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
  • แพทย์จะดูลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก
ตำแหน่งการวางซิลิโคน

ตำแหน่งในการวางซิลิโคนจะอยู่ใต้กล้ามเนื้อหรือใต้เนื้อหน้าอก ซึ่งศัลยแพทย์จะแนะนำตำแหน่งที่เหมาะสมกับแต่ละคน โดยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่

  • ความหนาของเนื้อบริเวณหน้าอก ของผู้เข้ารับบริการ
  • ความหย่อนคล้อยของหน้าอก ของผู้เข้ารับบริการ
  • ลักษณะของทรวงอก ของผู้เข้ารับบริการ
การเตรียมตัวก่อนเสริมเต้านม
  • แพทย์จะทำการตรวจร่างกายตรวจเลือด เอกซเรย์ปอด และตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจตามเกณฑ์
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัดเสริมหน้าอก ท่านต้องงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 6 ชั่วโมง
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านจะต้องหยุดยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่นแอสไพริน อาหารเสริมเช่นวิตามินอี น้ำมันปลา และสมุนไพร เช่น โสม ใบแปะก๊วย
  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัดอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ท่านจะต้องหยุดสูบบุหรี่และหยุดดื่มแอลกอฮอล์

ขั้นตอนการผ่าตัดเสริมหน้าอก

  • ก่อนเริ่มการผ่าตัดแพทย์จะให้ทำการดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์
  • ศัลยแพทย์จะเริ่มทำการผ่าตัด โดยทำการเลาะช่องบริเวณหน้าอก ใส่ซิลิโคน และเย็บปิดแผล
  • การผ่าตัดเสริมหน้าอกใช้เวลาประมาณ 5 – 2 ชั่วโมง

การดูแลหลังเสริมหน้าอก

  • ในช่วงสัปดาห์แรกหลังผ่าตัดสามารถอาบน้ำได้ เนื่องจากแพทย์จะทำการปิดฟิล์มกันน้ำ หลีกเลี่ยงการลงแช่น้ำหรือว่ายน้ำในสระ
  • พบแพทย์ตามนัด เมื่อแพทย์ตรวจแผลและเห็นว่าหายดีแล้วจะมีการแนะนำให้ใช้ครีมทาแผลเป็นหรือแผ่นซิลิโคนปิดแผลเป็น
  • หลังผ่าตัดใส่ซิลิโคน แนะนำให้ใส่บราชนิดไม่มีโครงอย่างน้อย 1 เดือน
  • หลีกเลี่ยงการกดทับหรือกระแทกบริเวณหน้าอก และการออกกำลังกายที่ใช้แขนมากในช่วง 1 เดือนแรก
  • หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ท่านต้องงดสูบบุหรี่และแอลกอฮอล์
  • ควรหมั่นตรวจเช็กหน้าอกด้วยตัวเองและตรวจแมมโมแกรมตามกำหนด

บทสรุป

ก่อนที่จะเข้ารับการเสริมหน้าอกท่านต้องเข้ารับคำแนะนำจากศัลยแพทย์ ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้แนะนำว่าท่านควรจะเสริมหน้าอกขนาดเท่าไหร่ดี ท่านต้องศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับตัวซิลิโคน แพทย์ที่ทำการเสริมหน้าอกต้องมีความเชี่ยวชาญ และท่านต้องไม่พลาดเรื่องขนาดของหน้าอกว่าจะเสริมหน้าอก 250 cc ได้หรือไม่