สาว ๆ ที่มีหน้าอกเล็ก ใส่เสื้อผ้าแล้วไม่สวย ขาดความมั่นใจ คงต้องมองหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองมีหน้าอกที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและบุคลิกภาพที่ดีให้กับตัวเองด้วยการ เสริมหน้าอก แต่ก่อนที่ท่านจะเข้าใช้บริการ ท่านต้องศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนที่จะเข้าใช้บริการ โดยศึกษาจากการเสริมหน้าอก pantip ที่จะมีผู้เคยเข้าใช้บริการออกมารีวิวให้ท่านได้เข้าไปอ่านเพื่อทำความเข้าใจก่อนใช้บริการ

การเสริมหน้าอก เป็นการเพิ่มขนาดหน้าอกให้ใหญ่ขึ้น ด้วยการใช้สารเติมเต็ม (Filler) หรือการใช้ไขมันตัวเองฉีดเข้าไปในเนื้อนม หรือแม้กระทั่งการผ่าตัดใส่ถุงเต้านมเทียมที่มีหลายขนาดให้เลือก และมีรูปทรงทั้งทรงกลมและทรงหยดน้ำ ทั้งนี้เพื่อให้หน้าอกตัวเองมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีรูปทรงที่ต้องการ มีนมที่สวยขึ้น เต่งตึงขึ้น ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้เข้ารับบริการว่าจะเลือกแบบไหน วิธีไหน และขนาดไหน

เสริมหน้าอกด้วยซิลิโคนหน้าอก

รูปทรงของซิลิโคนหน้าอก แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้

• ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลม

ซิลิโคนทรงกลม จะมีรูปทรงลักษณะกลม ซึ่งชื่อก็บอกแล้วว่ากลม โดยรอบวงซิลิโคนจะเท่ากันทุก ๆ ส่วน จึงทำให้มีความแน่น หน้าอกเต่งตึง เป็นทรงที่เมื่อสาว ๆ ทำมาแล้วจะเพิ่มความโดดเด่น ดึงดูดสายตาได้เป็นอย่างดี จึงทำให้เป็นที่นิยมเลือกใช้กันอย่างแพร่หลาย

• เสริมหน้าอกทรงหยดน้ำ

ซิลิโคนทรงหยดน้ำ จะมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ คือ ลีบบนขยายล่าง ซึ่งจะมีรูปทรงคล้ายหน้าอกธรรมชาติ โดยจะเติมซิลิโคนเจลเป็นชนิดกึ่งแข็งกึ่งเหลวเพื่อให้คงรูปทรงหยดน้ำและสัมผัสยังนิ่มเหมือนซิลิโคนเจลทั่ว ๆ ไป เราอาจจะรู้จักกันในชื่อ “Gummy Bear implant”

การเลือกทรงซิลิโคนก็มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะถ้าต้องการเนินหน้าอกที่ชัด หน้าอกที่มีขนาดใหญ่ ควรเลือกซิลิโคนทรงกลมจะดีกว่าทรงหยดน้ำที่มีเนินหน้าอกที่น้อยกว่า แต่ให้คุณจำไว้ว่าการเลือกขนาดซิลิโคนนั้นคุณจะต้องไม่เลือกให้ใหญ่ไปกว่าฐานหน้าอกของตัวเอง ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหาหน้าอกสองลอนขึ้นมาได้ (Double bubble)

พื้นผิวของซิลิโคน จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบผิวเรียบ กับ แบบผิวทราย ( Mentor)

เสริมหน้าอกด้วยไขมันตนเอง (Fat Graft Lipofilling)

การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองนั้นจะมีข้อดีคือไม่มีสิ่งแปลกปลอม (ซิลิโคน) เข้าไปในร่างกาย โดยแพทย์จะนำไขมันของผู้เข้ารับบริการเสริมหน้าอกมาใช้เป็นสารเติมเต็มฉีดเข้าไปที่หน้าอกเพื่อให้หน้าอกเต่งตึงขึ้น เหมือนกับการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน สามารถฉีดตกแต่งรูปทรงของหน้าอกในจุดต่าง ๆ ได้ เช่น เพิ่มความชิดของหน้าอก

แต่การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเองนั้นก็มีข้อเสียอยู่เหมือนกัน คือ หากไขมันที่ดูดมีไม่เพียงพอก็เติมเต็มหน้าอกได้น้อย ถ้าเตรียมไขมันไม่ดี ปั่นไม่เหมาะสม อัตราการสลายตัวก็สูง นมอาจจะยุบลงไปถึง 50 – 70% การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าปกติ

ตำแหน่งของแผลผ่าตัดเสริมหน้าอก

• รักแร้(Armpit incision,Transaxillary incision)

การผ่าตัดศัลยกรรมเสริมหน้าอกทางรักแร้เป็นการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อมากกว่าใต้กล้ามเนื้อ อาจจะซ่อนแผลไม่ได้เสมอไป จึงไม่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องจากปัจจุบันนี้ผู้หญิงนิยมใส่ชุดโชว์รักแร้มากขึ้น การผ่าตัดลักษณะนี้จะทำให้เลาะชั้นกล้ามเนื้อได้ยาก ซึ่งอาจจะต้องใช้วิธีส่องกล้องร่วมด้วย และวิธีนี้อาจเกิดเลือดคั่งได้มากกว่าวิธีอื่น หรืออาจเกิดปัญหาราวนมไม่เท่ากันได้บ่อย

• รอบปานนม(Periareolar,Around nipple incision)

การผ่าตัดเสริมหน้าอกรอบปานนมนี้จะมีข้อดีคือแผลเล็ก ถ้ารักษาได้ดีอาจจะมองไม่เห็นแผลเลย แต่คุณอาจจะได้ขนาดซิลิโคนที่มีขนาดเล็ก และบริเวณปานนมมักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่าแผลอื่น ๆ มีความเสี่ยงที่จะบาดเจ็บต่อท่อน้ำนมและอาจทำให้หัวนมมีอาการชามากกว่าวิธีอื่น

• ใต้ราวนม(Inframammary incision)

การผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้เป็นที่นิยมมากในปัจจุบันนี้ เนื่องจากแพทย์จะสามารถเลาะชั้นกล้ามเนื้อได้ดี จัดวางตำแหน่งซิลิโคนได้ดีกว่าวิธีอื่น และยังใส่ซิลิโคนที่มีขนาดใหญ่ ๆ ได้ โดยการผ่าตัดเสริมหน้าอกใต้ราวนมนี้สามารถทำพร้อมกับการผ่าตัดยกกระชับไปพร้อม ๆ กันได้เลยทีเดียว

หลังผ่าตัดเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้จะมีอาการเจ็บแผลหรือเจ็บเต้านมหลังผ่าตัดน้อยกว่าวิธีทางรักแร้ แต่อาจจะมีปัญหาเรื่องแผลเป็นเห็นชัด ดังนั้นต้องดูแลแผลอย่างถูกวิธีเพื่อลดแผลเป็นให้จางลงตามกาลเวลา

ตำแหน่งการวางซิลิโคน

• เสริมหน้าอกเหนือกล้ามเนื้อ (Subgradular)

การวางซิลิโคนเหนือกล้ามเนื้อจะเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกอยู่บ้างแล้ว ไม่เหมาะกับผู้ที่มีรูปร่างผมบาง เพราะจะดูไม่เป็นธรรมชาติ การวางซิลิโคนในตำแหน่งนี้จะมีโอกาสทำให้เกิดพังผืดได้สูงกว่าในอนาคต และรูปทรงหน้าอกหลังเสริมด้วยซิลิโคนที่ขนาดใหญ่มาก ๆ ก็จะมีโอกาสคล้อยลงได้มากกว่าอีกด้วย

• เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อ(Sub​muscular)

การวางซิลิโคนใต้กล้ามเนื้อจะเหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกน้อย เป็นการวางในตำแหน่งที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ซึ่งจะไม่เห็นขอบของถุงซิลิโคน เมื่อมีการสัมผัสจะช่วยให้ได้รับความรู้สึกว่าเหมือนหน้าอกจริงมากกว่า เพราะถุงซิลิโคนจะซ่อนอยู่ใต้กล้ามเนื้อ

• เสริมหน้าอกใต้กล้ามเนื้อหน้าอกบางส่วนและใต้เนื้อเต้านมบางส่วน (Dual plane)

การวางซิลิโคนใน 2 ตำแหน่งนี้ จะช่วยลดการขยับของซิลิโคนตามการหดเกร็งของกล้ามเนื้อได้ดีกว่าการเสริมหน้าอกแบบใต้กล้ามเนื้อปกติ หน้าอกจะมีทรงสวยดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเสริมชนิดเหนือกล้ามเนื้อ หากพูดกันในระยะยาว การเสริมหน้าอกด้วยวิธีนี้จะให้ผลดีกว่า

ซึ่งการผ่าตัดด้วยวิธีนี้จะต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการผ่าตัดที่ทำได้ยากกว่าวิธีเหนือกล้ามเนื้อมาก

บทสรุป

เสริมหน้าอก pantip ก่อนที่ท่านจะเข้ารับบริการเสริมหน้าอก ท่านควรศึกษาหาข้อมูลให้ละเอียด เนื่องจากเป็นการผ่าตัดใหญ่ ท่านต้องดูถึงข้อดีข้อเสียของซิลิโคนในเรื่องของรูปทรง ตำแหน่งการผ่าตัด โดยท่านต้องขอคำปรึกษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญที่จะให้คำตอบเราดีที่สุด หรืออาจศึกษาได้จากรีวิวของผู้เคยเข้ารับบริการเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจก่อนเข้าใช้บริการ