การเสริมหน้าอกมีหลายวิธีและวิธีที่นิยมคือการเสริมหน้าอกด้วยซิลิโคน การเสริมหน้าอกมีหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็กกว่า 300 cc ,350 cc , 400 cc หรือเสริมหน้าอก 500 cc แต่ส่วนมากขนาดหน้าอกที่สาว ๆ ฮิตกันอยู่ตอนนี้ก็คือการเสริมหน้าอก 400 cc แต่ทุกคนจะทำ 400 cc เหมือนกันหมดไม่ได้ต้องดูขนาดให้พอดีกับร่างกายของคนไข้ ถ้าตัวเล็กก็เลือกขนาดที่เหมาะสมและแพทย์ก็จะแนะนำว่าเราควรเสริมหน้าอกขนาดไหนถึงเหมาะกับร่างกายเรา ทางที่ดีก็ให้หมอวัดขนาดให้เราจะดีที่สุด และปลอดภัยที่สุดค่ะ
อายุเท่าไหร่ถึงเสริมหน้าอกได้
การเสริมหน้าอกถ้าจะให้ดีก็ควรมีอายุ 25 ปีขึ้นไปเพราะร่างกายเจริญเติบโตอย่างเต็มที่แล้ว และสำหรับผู้ใหญ่แนะนำให้เสริมตั้งแต่ 45 ปีจะดีค่ะ
การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีกี่แบบ
การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีอยู่ด้วยกัน 5 แบบดังนี้
- การผ่าตัดเข้าที่รักแร้ ข้อดีจะมีแผลตามสร้อยของรักแร้ ไม่มีแผลตามร่างกาย แต่ว่าบางคนบอกว่าการทำงานต้องใช้มือ ซึ่งจะเจ็บประมาณ 1 อาทิตย์
- การผ่าตัดปานนม ข้อดีคือแผลผ่าตัดเข้าถึงเต้านมโดยตรง จึงเจ็บน้อยหน่อย แต่ข้อเสียคือ มีรอยแผลที่รอบปานนม
- การผ่าตัดผ่านหัวนม ข้อดีคือ แผลผ่าตัดพุ่งเข้าเต้านมโดยตรง เวลาทำแผลนิดเดียว แต่ข้อเสียอาจเกิดอาการชาได้
- การผ่าตัดใต้ราวนม ข้อเสียคือ จะมีแผลตลอดชีวิต ถ้าบางคนเป็นคีลอยด์ง่ายจะเห็น ส่วนมากวิธีนี้ทำในคนที่มาแก้หน้าอก หรือทำในคนที่เสริมหน้าอกแล้วมีปัญหาหน้าอกแข็ง
- การผ่าตัดผ่านทางสะดือ ข้อดีคือมีแผลตรงขอบสะดือ แผลเล็ก แต่ข้อเสียคือทำได้เฉพาะคนที่เสริมหน้าอกด้วยน้ำเกลือ เนื่องจากแผลเล็กต้องพับเข้าไป ใช้ซิลิโคนเข้าไม่ได้
การผ่าตัดเสริมหน้าอกมีด้วยกัน 5 แบบแต่แบบที่นิยมเป็นการผ่าตัดเข้าที่รักแร้เพราะไม่มีรอยแผล เมื่อแผลหายก็จะอยู่ในรักแร้ และการผ่าตัดหน้าอกหากต้องการให้เป็นธรรมชาติก็ต้องเลือกให้เหมาะกับตัวเองมากที่สุด
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- สิ่งแรกก่อนการเสริมหน้าอกที่คุณจะต้องทำนั่น คือ การทำใจโดยคุณจะต้องไม่กังวล ไม่ควรเครียด เพราะว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ทำให้ความดันขึ้นสูง ทำให้คุณไม่สามารถทำการศัลยกรรมหน้าอกได้
- อีกสิ่งที่สำคัญก่อนการผ่าตัดเสริมหน้าอกนั้นคือ การงดเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่เป็นแอลกอฮอล์ก่อนผ่าตัด 1 เดือน งดกินอาหารที่ไม่สุกหรือสุก ๆ ดิบ ๆ และงดบุหรี่ หรือยาที่มีส่งผลกระทบต่อโรคความดันโลหิต เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโรค และอาการบวมที่ยาวนานกว่าปกติ
- งด หรือ หยุด การทานวิตามิน e น้ำมันตับปลา สมุนไพร และก็อาหารเสริมทุกชนิด 1 อาทิตย์ เพราะว่าวิตามินและอาหารเสริมบางตัวจะมีผลกับการผ่าตัด เสริมหน้าอก จะทำให้การปิดบาดแผลของระบบเลือดทำงานได้ช้าลง ส่งผลให้เลือดไม่ยอมแข็งตัว ซึ่งบางทีอาจเกิดอาการบวมช้ำนานกว่าคนอื่น ๆ รวมถึงอาหารที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือดก่อนผ่าตัด 1 อาทิตย์ อาทิเช่น ผงชูรส กระเทียม หัวหอม ถั่วเหลือง อัลมอนด์ แอปเปิล ผลไม้ตระกูลเบอรี่ แตงกวา ขิง มะเขือเทศ และ ยากลุ่มแอสไพริน ( Aspirin ) หรือไอบิวโพรเฟน ( Ibuprofen ) หรือยาอื่นที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ได้แก่ ยารักษาโรคไซนัส ยาแก้ไอที่มีส่วนผสมของยาดังกล่าว อย่างน้อย 2 อาทิตย์ก่อนผ่าตัด หากจำเป็นจะต้องให้ใช้ยาพาราเซตามอลในการแก้ปวดเท่านั้น
- งดน้ำและอาหาร 6 ชั่วโมงก่อนผ่าตัด ควรจะอาบน้ำ สระผมมาให้เรียบร้อยด้วย
- ควรบริหารร่างกายก่อนผ่าตัด 1 เดือน เพื่อเป็นการเตรียมกล้ามเนื้อให้แข็งแรง โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้องเพราะจะช่วยทำให้การเปลี่ยนท่านั่งหรือนอนทำได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ของใช้ที่จำเป็นที่จะต้องเตรียมก่อนเข้าผ่าตัด
- เสื้อแบบเป็นกระดุมหน้า ถือเป็นสิ่งที่สำคัญมากซึ่งจะต้องใช้ในวันออกจากโรงพยาบาล หลายคนคงสงสัยว่า เป็นเสื้อสวมหัวไม่ได้หรือ เราแนะนำว่าการใช้เสื้อแบบติดกระดุมหน้า จะช่วยทำให้คุณไม่ต้องยกแขนเพราะแผลที่บริเวณรักแร้จะเจ็บอย่างแน่นอนและยกไม่ขึ้นด้วย เพราะฉะนั้นเตรียมไว้ใส่ ตลอดช่วงพักฟื้น ซัก 3-4 ตัว ดูตัวที่ไม่รัดมาก เพื่อความสบายตัวของคุณเอง
- ลูกอม ในการเสริมหน้าอกบางทีอาจจะต้องยัดสายออกซิเจนลงคอด้วย ทำให้ตอนฟื้นอาจเจ็บคอ ซึ่งลูกอมจะช่วยทำให้ชุ่มคอ
- มะม่วงกับมะขาม แนะนำให้เตรียมไว้เผื่อคุณมีอาการอยากอาเจียน สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้ยาสลบ ผลไม้ 2 ชนิดนี้ จะช่วยทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าขึ้นได้
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัด
หลังผ่าตัดสองวันแรกควรจะมีเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวอยู่ด้วยตลอดเวลาเพื่อช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ รวมถึงการเฝ้าดูอาการหลังการผ่าตัด
การฟื้นตัวภายหลังการดมยาสลบในแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนฟื้นตัวได้ดีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่บางคนอาจจะรู้สึกเหนื่อยเพลียมึนงงได้ตั้งแต่หนึ่งถึงสองวันหลังดมยาสลบ
ทานอาหารที่ย่อยง่ายอาจจะแบ่งอาหารเป็นชิ้นเล็ก ๆ เพื่อง่ายต่อการเคี้ยว ควรจะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเกลือ หรือมีรสเค็มในอาทิตย์แรก เนื่องจากว่าเกลือทำให้น้ำถูกดึงกลับเข้าร่างกายเป็นสาเหตุให้บวมมากขึ้นได้ ควรจะกินอาหารที่มีกากใยสูงเพื่อป้องกันท้องผูกหลังการผ่าตัด โดยรวมคนไข้ต้องได้รับสารอาหาร และพลังงานในปริมาณที่เพียงพอด้วยเพื่อช่วยซ่อมบำรุงร่างกาย และการหายของแผล
ดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้ให้มาก ๆ ในหนึ่งถึงสองวันแรกหลังผ่าตัด พยายามงดเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน น้ำอัดลม และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เนื่องจากจะทำให้ไม่สบายท้องฟื้นตัวช้า ถ้าเกิดหลีกเลี่ยงไม่ได้ควรจะทานแต่น้อย
สวมเสื้อที่ใส่สบาย ควรเป็นเสื้อผ้าแบบใส่จากทางด้านหน้า เช่นเสื้อเชิ้ตเสื้อคลุม ควรจะหลีกเลี่ยงเสื้อที่ใส่แบบสวมจากด้านล่างเนื่องจากว่าหลังผ่าตัดจะยังปวดระบมหน้าอกอยู่ในช่วงแรกทำให้ยกแขนได้ไม่ดี
เมื่อกลับบ้านจะต้องพักผ่อนให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ คุณสามารถเดิน หรือเคลื่อนไหวบ้างในกิจวัตรประจำวันได้ และควรหลีกเลี่ยงการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ การบริหารร่างกาย หรือยกของใด ๆ ใน 7-10 วันแรก สามารถเริ่มออกกำลังกายส่วนล่างหลังผ่าตัดไปแล้วสองอาทิตย์ และสามารถบริหารส่วนแขนเช่น ว่ายน้ำ หรือยกของหนักได้หลังจากผ่าตัดไปแล้วหกอาทิตย์ ในระหว่างการออกกำลังกายควรจะสวมเสื้อชั้นในแบบสำหรับออกกำลังกายด้วยเสมอ
การเสริมหน้าอกสามารถเสริมได้หลายขนาดอยู่ที่คนไข้ต้องการขนาดเท่าไหร่ และขนาดของการเสริมหน้าอกที่นิยมอยู่ตอนนี้คือ การเสริมหน้าอก 400 cc แต่ทุกคนจะเสริมหน้าอกที่ 400 cc ทุกคนไม่ได้ การเสริมหน้าอกจะต้องดูหนาของหน้าอกเป็นหลักหน้าอกเล็กแต่ยากเสริมให้ใหญ่กว่าหน้าอกก็ไม่สามารถทำได้ หรืออาจทำได้แต่มีผลภายหลัง ทางที่ดีก่อนการเสริมหน้าอกควรเสริมเท่าที่หน้าอกของเราจะรับได้จะดีที่สุดค่ะ
